ผู้เขียน หัวข้อ: tokyo motor show 2024: พาชม 2024 Toyota Tacoma จากแดนมะกัน หรือนี่จะเป็นต้นแบบขอ  (อ่าน 48 ครั้ง)

siritidaphon

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 705
  • สินค้าโปรโมชั่น โพสขายฟรี
    • ดูรายละเอียด
tokyo motor show 2024: พาชม 2024 Toyota Tacoma จากแดนมะกัน หรือนี่จะเป็นต้นแบบของ Hilux Revo ขุมพลังไฮบริด?


Toyota Tacoma โมเดลปี 2024 เปิดตัวที่สหรัฐฯ เมื่อกลางปีที่แล้ว สิ่งที่น่าสนใจของรถคันนี้คือมีทั้งเครื่องยนต์สันดาปและไฮบริด โดยมีการเปิดราคารุ่นน้ำมันเมื่อปลายปีที่แล้ว รวมถึงรุ่นไฮบริดที่เปิดราคาเมื่อไม่กี่วันมานี้
 
2024 Toyota Tacoma เปิดตัวด้วยราคา 31,500 ดอลล่าร์หรือราว 1.164 ล้านบาทในรุ่นเครื่องยนต์น้ำมันล้วน และเริ่มที่ 47,795 ดอลล่าร์หรือราว 1.766 ล้านบาทสำหรับรุ่นไฮบริด
 
Toyota Tacoma เป็นกระบะขนาดกลาง เทียบเท่ากับ Hilux Revo ในบ้านเรา โดยในรุ่นใหม่จะมีหน้าตาแบบเดียวกับรุ่นพี่อย่าง Tundra ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ มาชมสเปคและหน้าตาของรถคันนี้ดีกว่าว่าจะน่าสนใจแค่ไหน
 
รุ่นย่อย 2024 Toyota Tacoma
 
SR
SR5
TRD Sport
TRD Off-Road
Limited
Trailhunter
TRD Pro
 

ดีไซน์ด้านหน้าแบบดุดัน
 
Tacoma ใหม่ถูกออกแบบและพัฒนาในสหรัฐอเมริกา ภายใต้ธีม “Badass Adventure Machine” หากอธิบายง่ายก็คงเป็น Tundra ย่อส่วนนั่นเอง
 
แต่สิ่งที่ Tacoma ใหม่ต่างกับกระบะรุ่นใหญ่มีเพียงกระจังหน้าที่เล็กกว่าและไฟหน้าที่เพรียวบางกว่าเท่านั้น นอกจากนั้นในด้านดีไซน์ก็ยังเป็นกระบะที่ดุดันสไตล์อเมริกันเช่นเดียวกัน

 
Tacoma ใหม่ยังมาพร้อมหลังคาที่พร้อมสำหรับการติดตั้งอุปกรณ์ต่าง ๆ รวมถึงสปอยเลอร์บริเวณกระจกหลังของรถ หลังคาของรถยังมี “ห่วงยึดในตัว” ทำให้สามารถติดตั้งแร็คหลังคาได้ง่ายขึ้น กันชนท้ายก็เข้ากับรถได้ดี
 
สำหรับ Tacoma ใหม่นั้นมาพร้อมรุ่นย่อยที่หลากหลาย และ Sheldon Brown หัวหน้าวิศวกรพัฒนา Tacoma กล่าวว่า “เรามุ่งมั่นที่จะให้การแยกคุณลักษณะระหว่างรุ่นย่อยให้ดียิ่งขึ้น”
 
ออพชั่นภายนอกให้มาอย่างครบครัน โดยมาพร้อมไฟหน้า-หลัง LED ตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น ล้ออัลลอยเริ่มที่ล้อกระทะ 17 นิ้ว ไปจนถึงล้ออัลลอย 18 นิ้ว ในรุ่นย่อยต่าง ๆ ก็มีออพชั่นที่ต่างกัน เช่น รุ่น TRD PreRunner จะมีความสูงที่มากขึ้นพร้อยาง All Terrain, รุ่น TRD Off-Road มาพร้อมยางออฟโรด 33 นิ้ว ส่วนรุ่น Limited จะตกแต่งแบบหรูหราด้วยโครเมียม และมี “ไฟหน้าอันเป็นเอกลักษณ์”

หนึ่งในสาเหตุที่ราคาเริ่มต้นค่อนข้างสูง เนื่องจาก Toyota จะขายเริ่มที่รุ่น XtraCab ซึ่งเป็นรุ่น 2 ประตูมีแคป และรุ่น 4 ประตู Crew Cab ยังมาพร้อมกระบะให้เลือกทั้ง 5 และ 6 ฟุต
 
นอกจากนี้ Tacoma ใหม่ยังมาพร้อมฟีเจอร์ที่น่าสนใจอย่าง ฝาท้ายกระบะอลูมิเนียมพร้อมระบบไฟฟ้าและระบบป้องกันการหนีบอีกด้วย รวมถึงมีออพชันอื่น ๆ ที่ต่างจากกระบะในบ้านเรา
 

ภายในได้จากรุ่นพี่
 
สำหรับห้องโดยสารของ Tacoma ใหม่นั้นมีดีไซน์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากรุ่นก่อนและรุ่นพี่อย่าง Tundra เจเนอเรชั่นล่าสุด
 
เมื่อเข้ามาข้างในเราจะเห็นพวงมาลัยดีไซน์ใหม่พร้อมมาตรวัดดิจิทัล เริ่มที่ขนาด 7 นิ้ว และในรุ่นที่สูงขึ้นจะเป็น 12.3 นิ้ว หน้าจอ infotainment ตรงกลางจะมีที่ 8 นิ้ว และ 14 นิ้ว ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย พร้อมระบบเสียง Toyota Audio Multimedia สามารถเชื่อมต่อได้ทั้ง Apple Carplay และ Android auto รวมถึงมีออพชั่นน่าสนใจอย่าง แท่นชาร์จไร้สาย และช่อง USB-C มาให้ด้วย
 
นอกจากเรื่องเทคโนโลยีแล้ว แดชบอร์ดของ Tacoma ใหม่ยังมีที่เก็บของมากขึ้น เริ่มที่บริเวณผู้โดยสารด้านหน้าที่มีที่วางโทรศัพท์ แผงประตูและคอนโซลกลางตกแต่งมีแผงพลาสติกที่ดูทนทาน โดย Toyota ตั้งเป้าหมายให้รถกระบะมีพื้นที่เก็บของมากขึ้น โดยพื้นที่เก็บของใต้เบาะหลังจะมากกว่าเดิมถึง 3 เท่า และเบาะหลังยังสามารถพับลงเพื่อบรรทุกสัมภาระชิ้นใหญ่ได้

 
นอกจากนี้ สัมผัสของวัสดุในห้องโดยสารจะเป็นยาง ๆ เสียส่วนใหญ่ ที่เก็บของด้านคนขับจะมี QR code ที่เชื่อมไปยังเว็บไซต์ซึ่งสามารถเรียนรู้ “ดีไซน์การการพิมพ์ 3 มิติอุปกรณ์เสริมด้วยตัวเอง เช่น โคมไฟ เครื่องมืออเนกประสงค์ และชุดเครื่องมือต่าง ๆ”
 
ออพชั่นอื่น ๆ ที่โดดเด่น ได้แก่ ระบบ Head-up Display เบาะนั่งคู่หน้ามีระบบอุ่น/เป่าลม กระจกมองหลังฉายภาพจากกล้องมองหลังได้ และมูนรูฟ
 
สิ่งที่น่าสนใจกว่าคือ ในรุ่น Limited จะมาพร้อมระบบเสียง JBL ลำโพง 10 ตำแหน่ง พร้อมลำโพง Bluetooth ที่มีช่องเก็บในคอนโซลรถโดยเฉพาะ และเอาออกมาใช้งานนอกรถได้ เช่น ในงานปาร์ตี้ ตั้งแคมป์ต่าง ๆ  โดยสามารถใช้งานโหมดบลูทูธได้สูงสุด 6 ชม. และกันน้ำได้ลึกถึง 3 ฟุต (914 มม.) เลยทีเดียว
 

ครั้งแรกที่ Tacoma มีเครื่องยนต์ไฮบริด
 
2024 Toyota Tacoma มาพร้อมเครื่องยนต์ให้เลือกทั้งหมด 2 รูปแบบหลัก ๆ ได้แก่ i-FORCE เครื่องยนต์สันดาปล้วน และ i-FORCE MAX เครื่องยนต์ไฮบริด
 
ในรุ่นเริ่มต้นจะเริ่มที่เครื่องยนต์ i-FORCE 4 สูบ 2.4 ลิตรเทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 228 แรงม้า แรงบิด 329 นิวตันเมตร จับคู่เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด
ในรุ่นถัดมาจะเป็นเครื่องยนต์ i-FORCE 4 สูบ 2.4 ลิตรเทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 270 แรงม้า แรงบิด 420 นิวตันเมตร จับคู่เกียร์ธรรมดา 6 สปีด
หากจับคู่เกียร์อัตโนมัติเรี่ยวแรงจะต่างกันเล็กน้อยด้วยเครื่องยนต์ i-FORCE 4 สูบ 2.4 ลิตรเทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 278 แรงม้า แรงบิด 429 นิวตันเมตร จับคู่เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด
 
สำหรับเกียร์ธรรมดา 6 สปีดนั้นมาพร้อมระบบ Rev Matching อัตโนมัติ พร้อมระบบป้องกันเครื่องดับ ส่วนเกียร์อัตโนมัติ Toyota ระบุว่าเป็นของใหม่หมด
 
สิ่งที่น่าสนใจคือ Tacoma เจนเนอเรชั่นนี้มาพร้อมเครื่องไฮบริด i-FORCE MAX แล้ว
 
เครื่องยนต์ไฮบริด i-FORCE MAX ประกอบด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 2.4 ลิตรเทอร์โบ ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า จับคู่กับแบตเตอรี่นิกเกิลเมทัลไฮไดรด์ขนาด 1.87 kWh จับคู่เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดสามารถรีดกำลังสูงสุดที่ 326 แรงม้า แรงบิด 630 นิวตันเมตร
 
สำหรับเครื่องยนต์ไฮบริดใหม่ถือว่าดีกว่าเครื่องยนต์ V6 3.5 ลิตรเดิมอย่างมากในแง่ของกำลัง โดยเครื่องยนต์ i-FORCE MAX จะมีในรุ่นย่อย Tacoma TRD Pro และ Trailhunter เป็นมาตรฐาน ส่วนในรุ่น TRD Sport, TRD Off-Road, และ Limited ก็สามารถเลือกเป็นออพชั่นได้เช่นกัน

 
ระบบขับเคลื่อนของ Tacoma ใหม่จะให้ระบบขับเคลื่อนล้อหลังพร้อมเฟืองท้ายลิมิเตดสลิปมาให้เป็นมาตรฐาน ในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อจะมาพร้อม transfer case 2 สปีด, active traction control เพิ่มขึ้นมา
 
ในรุ่นย่อย Limited พร้อมเครื่องยนต์ไฮบริด i-FORCE MAX จะมาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Full Time และ center locking differential ส่วนในรุ่นสายลุยอย่าง TRD PreRunner, TRD Off-Road, TRD Pro, และ Trailhunter จะมีล็อคเฟืองท้ายแบบอิเล็กทรอนิกส์มาให้ด้วย
 
 
แพลทฟอร์ม TNGA-F สำหรับสายลุย
 
แม้ Toyota Tacoma ใหม่จะเป็นปิ๊คอัพขนาดกลางเหมือน Hilux Revo แต่ก็ไม่ได้ใช้พื้นฐานแพลทฟอร์มเดียวกัน โดย Tacoma ใหม่อยู่บนพื้นฐานแพลทฟอร์ม TNGA-F ซึ่งใช้ร่วมกับรุ่นพี่อย่าง Tundra และ Sequoia
 
แพลทฟอร์มนี้ประกอบด้วยแชสซีแบบขั้นบันไดที่มีการเชื่อมด้วยเลเซอร์ มีคานเสริมความแข็งแกร่ง และคานหน้าแบบใหม่ทั้งหมดสำหรับกระปุกพวงมาลัย ที่นอกจากจะเพิ่มความแข็งแกร่งแล้ว ยังช่วยเรื่องการขับขี่ให้ดีขึ้นด้วย
 
สำหรับช่วงล่างด้านหลังของรถ ในรุ่น SR, SR5 XtraCab, และ TRD PreRunner จะเป็นแหนบแบบทั่วไป ส่วนในรุ่นที่สูงขึ้นไปจะมีช่วงล่างหลังแบบมัลติลิงค์ ที่ช่วยให้การควบคุมรถดีขึ้นและขับขี่ได้สะดวกสบายขึ้น
 
Toyota กล่าวว่า ช่วงล่างของรถ “ถูกปรับแต่งมาโดยเฉพาะแต่ละรุ่น” เช่น ในรุ่น TRD Sport จะใช้โช้คอัพแบบสปอร์ตที่ตอบสนองได้ดีกว่า ส่วนรุ่น TRD Off-Road มาพร้อมโช้คอัพน้ำมันโมโนทูปจาก Bilstein “เพื่อการเดินทางของล้อที่ไกลขึ้นและการกระจายความร้อนที่มากขึ้น” และในรุ่น Limited จะเป็นช่วงล่างแบบแปรผัน Adaptive Variable Suspension ที่ปรับตามสภาพถนน
 
Tacoma ใหม่ทุกรุ่นมาพร้อมดิสก์เบรค 4 ล้อเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน โดยดรัมเบรคหลังถูกยกเลิกไปตั้งแต่ยุค 80 แล้วสำหรับรถรุ่นนี้ รวมถึงใช้ระบบพวงมาลัยไฟฟ้า ซึ่งช่วยให้ “ผสมผสานฟีเจอร์ความสะดวกสบายและความปลอดภัยต่าง ๆ เพิ่มเติม”

 
สำหรับช่วงล่างด้านหน้ามาพร้อมเหล็กกันโคลงที่แยกอิสระซ้าย-ขวาในรุ่นย่อยสายลุย และสามารถแยกเหล็กกันโคลงให้เป็นอิสระด้วยปุ่มในรถเพียงปุ่มเดียว โดย Toyota กล่าวว่าสิ่งนี้จะช่วยข้อต่อต่าง ๆ ถึง 10% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน
 
สำหรับระบบควบคุมการออฟโรดนั้นมาพร้อมระบบ Downhill Assist Control, Multi-Terrain Monitor และ Multi-Terrain Select ที่ทำงานได้ทั้งในโหมด 4WD High และ 4WD Low รวมถึงฟังก์ชัน CRAWL Control ปรับปรุงใหม่ที่ “เงียบขึ้นอย่างเห็นได้ชัด”
 
 
ระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense 3.0
 
2024 Toyota Tacoma มาพร้อมระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense 3.0 เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน โดยระบบความปลอดภัยที่โดดเด่น เช่น
 
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติทุกย่านความเร็ว Full-Speed Range Dynamic Radar Cruise Control (Adaptive Cruise Control)
ระบบช่วยให้อยู่ในเลน Lane Tracing Assist (Lane Centering)
ระบบป้องกันการชนพร้อมตรวจจับคนเดินถนน Pre-Collision System with Pedestrian Detection
ระบบไฟหน้า Automatic High Beam
ระบบ Road Sign Assist
ระบบช่วยขับขี่ Proactive Driving Assist
 

ลากจูงได้สูงสุด 6,500 ปอนด์
 
Toyota Tacoma ใหม่มาพร้อมแรงลากจูงมหาศาล ในรุ่นเครื่องยนต์ i-FORCE พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด มีความสามารถในการลากจูงถึง 6,500 ปอนด์หรือ 2,948 กก. เลยทีเดียว ส่วนรุ่นเครื่องยนต์ไฮบริด i-FORCE Max มีความสามารถในการลากจูงที่ 6,000 ปอนด์หรือ 2,722 กก.
 
นอกจากนี้ Tacoma ยังใส่เทคโนโลยีสำหรับการลากจูงมาให้อย่างครบครัน เช่น Trailer Brake Controller และ Trailer Back Up Guidance รวมถึงระบบ Straight Path Assist ที่ช่วยให้รถที่กำลังลากจูงสามารถถอยเป็นเส้นตรงได้อย่างง่ายดาย
 
ส่วนน้ำหนักบรรทุก ใน Tacoma TRD Off-Road มีความสามารถในการบรรทุกสูงสุดที่ 775 กก.
 

หาก Hilux Revo หน้าตาแบบนี้ก็คงจะดี
 
2024 Toyota Tacoma มาพร้อมหน้าตาที่ดุดันมากขึ้น พร้อมแพลทฟอร์ม TNGA และเครื่องยนต์บล็อคใหม่ขุมพลังไฮบริดที่ให้ความประหยัดมากขึ้น หากมีการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจแบบนี้ใน Hilux Revo บ้านเรา ก็คงจะดีไม่น้อย