ผู้เขียน หัวข้อ: ซ่อมบำรุงอาคาร: น้ำยาแอร์ เลือกใช้อย่างไร และต่างกันอย่างไร ?  (อ่าน 22 ครั้ง)

siritidaphon

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 723
  • สินค้าโปรโมชั่น โพสขายฟรี
    • ดูรายละเอียด
ซ่อมบำรุงอาคาร: น้ำยาแอร์ เลือกใช้อย่างไร และต่างกันอย่างไร ?

หลายๆครั้ง ที่คุณอาจจะต้องเจอช่างแอร์เรียกเก็บค่าเติมน้ำยาแอร์ หลังจากที่ล้างแอร์เสร็จ และช่างไม่ได้แจ้งว่ามีการรั่วซึมแต่อย่างไร การเติมน้ำยาแอร์จึงไม่จำเป็น และหากมีการเติมน้ำยาแอร์มากเกินกว่าสเปกของเครื่อง ก็จะเกิดลักษณะอาการ Over Charge ที่จะส่งผลให้แอร์ไม่เย็นได้ เพราะฉะนั้น ควรเลือกช่างที่ไว้ใจได้และเป็นมืออาชีพในการตรวจสอบและดูแลเครื่องปรับอากาศทุกครั้ง เพราะ น้ำยาแอร์ แท้จริงแล้วไม่ต้องเติมบ่อย


โดยปกติแล้ว หากได้รับการติดตั้งที่ถูกต้อง แม้ว่าจะผ่านไป 5 หรือ 10 ปี ถ้าแอร์ยังเย็นอยู่ปกติ ไม่มีการรั่วไหล เราก็ไม่จำเป็นต้องเสียค่าน้ำยาแอร์แต่อย่างใดเพราะน้ำยาแอร์อยู่ในระบบปิด หมุนเวียน ไม่มีทางหมด แต่หากมีรอยรั่วเกิดขึ้น อาจจะทำให้น้ำยาแอร์หมดได้ภายในไม่กี่ชั่วโมงหรือบางครั้งระยะเวลาอาจขยายไปถึงเดือน ทั้งหมดขึ้นอยู่กับขนาดของรอยรั่ว

ซึ่งในทุกครั้งที่มีการเติมน้ำยาแอร์ใหม่เกิดขึ้น ช่างจำเป็นต้องหารอยรั่วและอุดรอยรั่วให้สำเร็จก่อนจะเติมน้ำยาแอร์ใหม่ลงไปใหม่ เพราะไม่อย่างนั้น อาจจะทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายซ้ำซ้อนได้ แต่ในขณะเดียวกัน น้ำยาแอร์ก็มีอยู่หลายประเภท ซึ่งก็ต้องเติมให้ถูกต้อง เลือกใช้ให้ถูก เพราะไม่อย่างนั้น อาจจะเกิดปัญหาตามมามากมายได้ วันนี้เราจะมาพูดถึงน้ำยาแอร์ว่าจะต้องเลือกใช้อย่างไร และแต่ละประเภทมีความแตกต่างอย่างไรบ้างเพื่อเป็นข้อมูลให้คนทุกคนที่ต้องใช้แอร์เป็นประจำ เพื่อเกิดปัญหาก็จะได้รู้เท่าทัน ไม่โดนหลอกให้เสียเงินไปอย่างเปล่าประโยชน์

น้ำยาแอร์มีหลายชนิด เป็นสารเคมี ที่จะใช้เพื่อการทำงานในระบบปรับอากาศและทำหน้าทีทำความเย็น ให้ไหลผ่านคอมเพรสเซอร์และคอยล์เย็น จะช่วยดูดซับปริมาณความร้อน กับความร้อนแฝง เพื่อเปลี่ยนอุณหภูมิและความดัน ให้ต่ำลงและกลายเป็นความเย็น ซึ่งจะมีหลายประเภทเช่น น้ำยาแอร์ R407C เป็นสารทำความเย็นและเป็นสารบริสุทธิ์สูง ซึ่งเป็นสารทำความเย็น ที่นิยมใช้ทดแทน R22 ที่เป็นระบบปรับอากาศแบบเดิม ซึ่งมีคุณสมบัติใกล้เคียง R22 มาก สามารถที่จะช่วยลดปัญหาการทำลายชั้นบรรยากาศ เหมาะสำหรับระบบทำความเย็นขนาดกลาง และระบบทำความเย็นในอาคาร อย่างเช่น ระบบทำความเย็นสำนักงาน ที่พักอาศัย หรือแม้กระทั่งโรงงานอุตสาหกรรม

นอกจากนี้ ยังมีน้ำยาแอร์ R410A สามารถใช้กับระบบทำความเย็นรุ่นใหม่อย่างอินเวอร์เตอร์ เนื่องจากมีความสามารถในการนำความร้อนสูง ทำความเย็นได้รวดเร็ว มีค่าการทำลายชั้นโอโซนหรือชั้นบรรยากาศต่ำ และไม่ติดไฟ จุดสำคัญเป็นการใช้ปริมาณน้ำยาที่น้อยลง แต่ก็ยังคงคุณภาพ เอาไว้ได้ดีมากขึ้น สามารถที่จะใช้ได้ ตั้งแต่ระบบทำความเย็นทั่วไป จนถึงระบบการทำความเย็น ที่สามารถแช่แข็งได้ และยังมีน้ำยาแอร์  R32 เป็นสารผสมในกลุ่ม HFC เป็นสารทำความเย็น แบบไม่เป็นสารผสม

มีค่าการทำลายชั้นโอโซน และการเกิดภาวะเรือนกระจกในปริมาณที่ต่ำมาก สามารถที่จะติดไฟได้ แต่ไม่มีความรุนแรง สะดวกเมื่อเกิดปัญหาในเรื่องของน้ำยารั่ว ก็จะสามารถเติมได้ทันที เหมาะสำหรับระบบทำความเย็นในอาคาร ที่พักอาศัย ในโรงงานอุตสาหกรรม หรือแม้กระทั่งตู้เย็นและห้องเย็นได้ด้วย เห็นมั้ยว่า น้ำยาแอร์นั้นมีหลากหลายประเภทและมีความแตกต่างกัน ซึ่งการเลือกใช้ก็ต้องอยู่ที่คงวามเชี่ยวชาญของช่าง ซึ่งแน่นอนว่า เรื่องของน้ำยาแอร์หลายคนอาจจะไม่มีความรู้ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด คือจะต้องใช้ความถูกต้อง ถูกสเปก เช่น ต้องใช้น้ำยาแอร์ที่เป็นชนิดเดียวกัน ห้ามใช้คนละชนิดมาผสมกัน

การเติมน้ำยาแอร์ R32 สามารถเติมส่วนที่น้ำยาขาดเพิ่มเข้าไปได้เลย เนื่องจากเป็นสารเชิงเดี่ยวไม่มีการผสมสารใดใดเพิ่มเติม แต่ในทางกลับกันการเติมน้ำยาแอร์ R410A กลับมีความจำเป็นต้องถ่ายน้ำยาแอร์เดิมออกมาให้หมดทุกครั้งก่อนเติมน้ำยาใหม่

อย่างไรก็ตามเรา อยากให้ทุกครอบครัวได้สร้างบรรยากาศภายในครอบครัวให้มีสิ่งแวดล้อมที่ดีอยู่เสมอ ด้วยการทำความสะอาดบ้านช่องให้น่าอยู่มากยิ่งขึ้น เพราะปัจจัยหลายๆอย่างในบ้านของเรา สามารถสร้างบรรยากาศที่ดีในบ้านได้ ไม่ว่าจะเป็นการที่เราได้อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี ได้สูดอากาศที่บริสุทธิ์ เพราะเราอยากให้ทุกคนมีสุขภาพที่ดี เพราะสุขภาพที่ดีสามารถทำให้เรามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น