การให้อาหารสายยางทางปากการให้อาหารทางสายยางทางปาก หรือที่เรียกว่า OG Tube Feeding (Orogastric Tube Feeding) เป็นการให้อาหารโดยสอดสายยางผ่าน ช่องปาก (Mouth) เข้าสู่กระเพาะอาหาร (Stomach) ค่ะ
วิธีการนี้พบได้น้อยกว่าการให้อาหารทางจมูก (NG Tube) แต่ก็มีความจำเป็นในการใช้ในบางกรณี:
👄 การให้อาหารทางสายยางทางปาก (OG Tube Feeding)
1. ลักษณะและการใช้งาน
ตำแหน่ง: สอดสายยางผ่าน ปาก ลงสู่กระเพาะอาหาร
วัตถุประสงค์: เช่นเดียวกับการให้อาหารทางจมูก คือเพื่อส่งสารอาหารไปยังกระเพาะอาหารโดยตรง
2. ข้อบ่งชี้ในการใช้ (เมื่อใดที่ต้องใช้ทางปากแทนจมูก)
การให้อาหารทางปากมักใช้ในสถานการณ์เฉพาะที่การใส่สายยางทางจมูกทำไม่ได้หรือไม่เหมาะสม:
ทารกแรกเกิด/เด็กเล็ก (Neonates and Infants): เป็นวิธีการที่นิยมใช้ในทารกแรกเกิด มากกว่าทางจมูก เนื่องจากทารกส่วนใหญ่หายใจทางจมูกเป็นหลัก การใส่สาย NG Tube อาจขัดขวางการหายใจได้
ผู้ป่วยที่มีปัญหาทางจมูก: เช่น มีการบาดเจ็บรุนแรงที่ใบหน้า (Facial Trauma), มีภาวะอุดตันในช่องจมูก, หรือมีข้อห้ามทางการแพทย์อื่น ๆ ที่ทำให้ไม่สามารถสอดสายผ่านจมูกได้
การใส่สายในระยะสั้นมาก: บางครั้งใช้ในผู้ใหญ่ที่ต้องให้อาหารเพียงชั่วคราวและต้องการหลีกเลี่ยงการระคายเคืองในช่องจมูก
3. ข้อท้าทายในการดูแล (Care Challenges)
การให้อาหารทางสายยางทางปากมีข้อท้าทายที่แตกต่างจากทางจมูก คือ:
การตรึงสาย (Securing): การตรึงสายให้คงที่ทำได้ยากกว่าทางจมูก เพราะสายจะถูกยึดไว้ที่แก้มและด้านข้างของปาก
การกระตุ้น Gag Reflex: สายยางอาจกระตุ้นให้เกิดการสำรอกหรือการอาเจียนได้ง่ายกว่า
ความเสี่ยงที่ผู้ป่วยจะกัดสาย: โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่มีภาวะสับสน หรือในทารก อาจมีความเสี่ยงที่ผู้ป่วยจะกัดสายยาง ทำให้สายยางเสียหาย หรือเกิดการอุดตันได้
สำคัญ: ไม่ว่าจะเป็นการให้อาหารทางสายยางทางจมูกหรือทางปาก ขั้นตอนการให้อาหาร (การจัดท่า, การตรวจสอบสาย, การควบคุมการไหล, และการล้างสาย) จะใช้หลักการเดียวกัน คือต้องทำอย่างสะอาด ปลอดภัย และช้า ๆ เพื่อป้องกันการสำลักค่ะ